#ศัลยกรรมจมูกผู้ชาย #ผ่าตัดจมูกผู้ชาย #รีวิวมิสโค #ศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็น #รีวิวผ่าตัดปีกจมูก #รีวิวฟิลเลอร์จมูก
ฉันยูจินค่ะ
แฟนฉันมีปมด้อยเรื่องปีกจมูกมานานแล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอย่างหนักก็ตัดสินใจทำ
ศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็นค่ะ
ปกติแล้วการลดขนาดปีกจมูกนั้นถ้าหากทำเป็นการรักษาที่ไม่ใช่ผ่าตัดแล้วก็กลับมาบานอีกหรือ
ถ้ากรีดเอาก็จะเห็นรอยกรีดได้ชัดเลยกะว่าจะไม่ทำ
แต่ว่าพอได้รู้จักการผ่าตัดที่ทั้ง ไม่มีรอยและอยู่ถาวร
ด้วยวิธีศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็นแล้วจึงหาโรงพยาบาลอยู่นานมากแล้วเจอโรงพยาบาลที่ถูกใจและ
น่าเชื่อถือมากที่สุดก็เลยเลือกโรงพยาบาลนี้ค่ะ
“
Before
————————————————————————
แฟนฉันโดยรวมแล้วหน้าตาดูชิคมากเลยค่ะ >.< ❤️
แต่ว่าเพราะว่าปีกจมูกเลยทำให้เวลามองหน้าตรงดูซื่อ? มากกว่าเวลามองจากด้านข้าง แต่มีจมูกที่ดูกลม
ก็เลยดูเหมือนไปเอาจมูกคนอื่นมาใส่เลย เพราะแบบนี้เวลาแต่งรูปเลยต้องบีบปีกจมูกให้อยู่ตลอดเลยค่ะ
อย่างที่เห็นในรูปด้านซ้าย ปลายจมูกค่อนข้างที่ปลายตกค่ะ
ถ้าเกิดว่าหลังศัลยกรรมแล้วปีกจมูกเล็กลงแล้ว แต่ปลายจมูกยังตกอยู่
รูปจมูกก็จะดูไม่ค่อยสวยเลยทำมิสโคร่วมด้วยค่ะ ส่วนดั้งนั้น ไม่ใช่คนที่ไม่มีดั้งอยู่แล้ว
แต่ว่าถ้าเกิดจะให้ดูสวยจบหลังทำแล้วจึงตัดสินใจทำฟิลเลอร์จมูกด้วยค่ะ
ถ้าเกิดหน้านิ่งๆ ด้านข้างจมูกดูไม่บานหนักมาก
แต่พอยิ้มแล้วจมูกบานขึ้นเลยค่ะคนที่จมูกบานก็จะเข้าใจเลยค่ะว่าเครียด
ถ้าเกิดว่าปีกจมูกเล็กลงจมูกจะดูสวยยิ่งขึ้นและเข้ากับภาพลักษณ์เขามากขึ้นเลยตัดสินใจจองเลยค่ะ
หลังจากนี้แฟนของฉันจะมา
รีวิวให้ฟังอย่างละเอียดให้ฟังค่ะ
“
ความเจ็บ / ระยะเวลา / ขั้นตอน
โรงพยาบาลให้มาส์กมา เลยใส่มาส์กไปไหนมาไหนครับ
แฟนยูจินเองครับ !_!
ผมจะมาเล่าขั้นตอนให้ฟังนะครับ
ก่อนอื่นหลังผ่าตัดสามวันจะล้างหน้าไม่ได้เลยแนะนำให้ไม่แต่งหน้ามาครับ
ยังไงก่อนผ่าตัดต้องล้างหน้าอยู่แล้วเลยแนะนำแค่ทาสกินแคร์ครับ!
ขั้นตอนก่อนการผ่าตัด
คุณหมอก็จะอธิบายว่าจมูกรูปร่างเป็นอย่างไรให้อย่างละเอียดและถ้าผ่าตัดกับทำมิสโคและฟิลเลอร์แล้ว
จมูกจะออกมาเป็นอย่างไร คุณหมออธิบายพร้อมกับวาดรูปให้ดูไปด้วยครับ ความเชื่อมั่นก็เพิ่มขึ้นอีก!
พอปรึกษากับคุณหมอเสร็จแล้วพนักงานท่านอื่นก็มาถ่ายรูปหน้าตรง ข้าง ล่างอย่างละเอียดครับ
เสร็จแล้วก็ไปยังเตียงผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัด
พอขึ้นไปเตียงผ่าตัดแล้วคุณหมอก็มาทาครีมที่จมูกและเอาขนจมูกออกให้ครับ
หลังจากนั้นก็เริ่มการผ่าตัด!
ใช้เวลาประมาณ 40~45 นาที
เจ็บอย่างไม่มีสติเลยครับ
ขั้นตอนหลังการผ่าตัด
พอเสร็จการผ่าตัดแล้วคุณหมอก็ให้ดูกระจกและอธิบายให้ฟังว่าจมูกเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
เสร็จแล้วก็ไปยังห้องให้คำปรึกษาเพื่อฟังว่าต่อไปต้องดูแลอย่างไรบ้าง
เพื่อให้รอยบวมหายไปเร็วและไม่เหลือรอยแผลเป็นต้องตั้งใจฟังคุณหมออย่างละเอียด
และทำตามครับ
*มีคำอธิบายเขียนอยู่ในกระดาษที่ให้มาแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะลืมเลยครับ โน โน
ความเจ็บปวด
ตอนที่ผ่าตัดเจ็บอยู่แค่อย่างเดียวครับ คือตอนฉีดยาชาครับ
เจ็บยิ่งกว่าความเจ็บอะไรที่จินตนาการได้ครับ
ฉีดตรงข้างขวาซ้ายของจมูกและตรงกลางรวมทั้งหมด 8 จุดครับ
แต่ละจุดเจ็บเหมือนโดนบิดกระดูกครับ...
อยู่เฉยๆน้ำตาก็ไหลออกมาครับ....เจ็บจริง ๆครับ
พอฉีดยาชาแล้วหลังจากนั้นระหว่างการผ่าตัดก็ไม่มีความเจ็บอะไรอีกเลยครับ มีแค่เสียงครืด ๆ และ
ตอนเย็บครับ มีแต่ความเจ็บเข้ามาทางจิตใจแต่ว่าใช้วิธีร้องเพลงในใจให้เวลา 40 นาทีผ่านไปครับ
คำเตือน : เจ็บครับ very เจ็บ เราฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บแต่ตอนฉีดยาชาเจ็บมากครับ
แต่ว่าทนโดยการท่องไว้ว่า เจ็บแค่แปปเดียว!
อย่างไรก็ตามพอเริ่มฉีดยาชาแล้ว
ยังไงก็หนีออกไปไม่ได้อยู่ดี55555
“
วันที่ 1
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วก็จะได้รับใบอธิบายและใบยามา (ยาแก้ปวด, ยาที่ช่วยไม่ให้น้ำมูกไหล, ยาลดกรด) จำได้ว่าทั้งหมดมี 4 อย่างครับ ตัวผมเองร่างกายรับยาแก้ปวดไม่ค่อยได้เลยซื้อไทลินอลกลับมาด้วย
1 กระปุกครับ พอผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกแสบ ๆ แล้วครับ เหมือนกับคลื่นฝนก่อนที่พายุจะมาครับ ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงพอยาชาเริ่มคลายแล้ว ร่างกายก็เริ่มสั่นและรู้สึกเจ็บเหมือนกับเซลล์ประสาทความเจ็บมาอยู่ที่จมูกเลยครับ วันแรกผมกินยาที่ได้มาและกินไทลินอลไปประมาณ 4~5 เม็ดครับ
ยูจินเอาแต่ชมว่าจมูกทำออกมาได้สวยมาก แต่ว่าวันผ่าตัดวันนั้นเป็นเพราะความเจ็บคำพูดเลยไม่เข้าหูเลยครับ
ก็แค่กินยาแล้วหลับไป พอตื่นมาเพราะว่าเจ็บก็กินยาอีกแล้วก็หลับไปอีก เหมือนนอนทั้งวันเลยครับ
เพราะอย่างงั้นทำให้ร่างกายเหนื่อยวันผ่าตัดก็อาจจะเป็นตัวช่วยอีกวิธีก็ได้ครับ ㅠㅠ
ผมเป็นคนที่นอนเยอะอยู่แล้ววันแรกเลยสามารถนอนทั้งวันเพื่อลืมความเจ็บได้ครับ
วันแรกเพราะว่าช้ำจมูกเลยดูเชิดขึ้นนิดหน่อยและโด่งครับ
พอประมาณกลางดึกความเจ็บหลักๆก็ผ่านไปแล้ว สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติครับ
อย่างที่เห็นถ้าดูจากไกล ๆ ดูไม่ออกเลยครับ
แต่ว่าถ้ากระเทือนนิดหน่อยตรงจมูกอาจรู้สึกเจ็บแปล๊บได้เลยต้องระวังระมัดหน่อยครับ
*สรุปวันที่หนึ่ง
ถ้ายาชาคลายแล้วได้ลิ้มรสของนรกเลย
อาจจะต้องการยาแก้ปวดได้ ซื้อไทลินอลไว้ล่วงหน้า
นอนเพื่อลืมความเจ็บ
“
วันที่ 2
เหมือนโดนผึ้งต่อยเลย
วันที่สองบวมที่สุดครับ
จมูกบวมแบบนี้ครับ
วันที่สองนั้นตามใบอธิบาย
ให้เอาเทปที่ปิดตรงปลายจมูกออกครับ
วันที่สองเจ็บน้อยกว่าวันที่หนึ่งแต่ว่าอาจจะรู้สึกแสบและเจ็บแปล๊บขึ้นมากระทันหัน
เหมือนมีกองโจรซุ่มโจมตีได้ครับ ให้กินยาที่ได้มาอย่างเคร่งครัดและกินไทลินอลเผื่อไว้ครับ
แต่ว่าก็ใช้ชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่งครับ !_!
และหลังผ่าตัดสามวันไม่สามารถให้น้ำโดนหน้าได้เลยรู้สึกไม่สะดวกที่ไม่สามารถล้างหน้าได้ครับ
สำหรับผม ผมใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเหงื่อและพยายามอยู่แต่บ้านไม่ให้เหงื่อไหลครับ
พอเข้าวันที่สองแล้วก็จะยิ่งบวม บริเวณจมูกและริมฝีปากจะบวม อาจจะรู้สึกไม่สบายได้ครับ
เขาบอกว่ารอยบวมจะเริ่มลดจากบริเวณจมูกไล่ลงไปถึงคางและแก้มครับ เพื่อให้หายบวมแล้ว
การประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดก็สำคัญครับ
และบริเวณที่ผ่าตัดเลือดอาจจะแข็งตัวและมีหนองได้การใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำเกลือทำความสะอาด
เบาเบาบริเวณผ่าตัดก็สำคัญครับ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะมีรอยแผลเป็นได้ครับ ㅠ_ㅠ
“
วันที่สาม
วันที่สามครับ
วันที่สามนั้นเจ็บน้อยกว่า 1,2 อย่างรู้สึกได้ครับ
รอยบวมก็ไม่ค่อยชัดมากครับ
แต่ว่าก็ต้องใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำเกลือทำความสะอาดอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้นครับ
ระหว่างที่ทำความสะอาดอาจจะรู้สึกแสบหรือเจ็บได้แต่เพื่อรอยแผลเป็นแล้วให้อดทดไว้และเช็ดครับ
ตั้งแต่วันที่สามผมรู้สึกอึดอัดในจมูกมากครับ ㅠㅠ ในจมูกเริ่มมีฝุ่นและน้ำมูกสะสมอยู่ทั้งแข็งตัวและไหลออกมา
แต่ว่าเขาบอกว่าน้ำมูกไม่ดีกับบาดแผลเลยได้แต่อดทนไว้และเช็ดออกด้วยคอตตอนบัตครับ แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดเหมือนเดิม :( ใจที่อยากจะสั่งน้ำมูกทำให้วันนั้นทั้งวันร่างกายและจิตใจอึดอัดไปหมดเลยครับ
แต่ถึงอย่างไรรอยบวมก็เริ่มค่อย ๆ หายไปแล้วจมูกก็เริ่มเข้ารูปมากขึ้น เห็นใช่ไหมล่ะครับ ตอนนั้นยังเจ็บอยู่
เลยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่แต่พอมาดูรูปแบบนี้แล้วรู้สึกคิดถูกเลยครับที่ทำปีกจมูก :) แค่นี้ก็พอใจแล้ว
อีกสี่วันก็จะได้ไปตัดไหมแล้ว ได้แต่ตั้งตารอคอยวันนั้นและหนีอากาศร้อนอยู่กับยูจินครับ
“
หลังจากตัดไหม
ตัดไหมแล้ว วันนั้นไม่มีใครดูออกเลย
ในที่สุด! เวลาที่รอคอยมาหนึ่งอาทิตย์ ได้ตัดไหมแล้วครับ! แวะไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อไปตัดไหมและ
รีทัชฟิลเลอร์ครับ คำแรกที่ผมขึ้นเตียงผ่าตัดเพื่อตัดไหมคือ “เจ็บไหมครับ...?”
55555555
เพราะว่าวันผ่าตัดรู้สึกเจ็บจนจำครับ :(
แต่ว่าการตัดไหมนั้นรู้สึกแสบและจบภายในหนึ่งนาทีครับ
คุณหมอดูรูปจมูกให้อย่างใจดีและรีทัชฟิลเลอร์จมูกให้เข้ารูปครับ
หลังจากตัดไหม 5 วัน (เพิ่งถ่ายตอนตื่นหน้าเลยบวมครับ)
หลังจากตัดไหมหนึ่งอาทิตย์
ตั้งแต่วันที่ตัดไหมจนถึงอีกประมาณสามวัน จะเห็นรอยแดงตรงบริเวณที่เย็บครับ เพราะว่าผิวหนังขึ้นใหม่
ก็เลยเกิดเป็นรอยขึ้นมาครับ แต่ว่าตรงปลายจมูกจะมีเงาอยู่แล้วเลยทำให้มองไม่ค่อยเห็นครับ ไม่ต้องกังวล
อีกทั้งต่อไปนี้ยังต้องใช้คอตตอนบัตชุบน้ำเกลือทำความสะอาดให้ไม่เกิดแผลเป็น และสามารถทายาลดรอยแผลเป็นตั้งแต่วันนั้นได้เลยครับ แต่ว่าความชื้นไม่ดีกับรอยแผล เลยจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าให้แห้งด้วยครับ
ถ้าเกิดว่าจับปลายจมูกหรือขยับจะยังรู้สึกเจ็บและไม่เป็นธรรมชาติอยู่ เลยถามคุณหมอว่าเป็นไรไหม
คุณหมอบอกว่าเกิดจากมิสโค ไม่จำเป็นต้องกังวลครับ
ตั้งแต่อาทิตย์หน้าต้องเริ่มออกกำลังกายจมูกมิสโคแล้วล่ะครับ @.@
“
ปฏิกิริยาคนรอบข้าง
ผมขยันใช้คอตตอนบัตเช็ดก็เลยสามารถถอดมาส์กและไปไหนมาไหนโดยที่คนไม่ค่อยรู้เลยครับว่ายังมีไหมอยู่
พอตัดไหมที่อยู่ในจมูกแล้ว วันนั้นไปเจอเพื่อน เพื่อนยังดูไม่รู้เลยครับ
พอไปเจอครอบครัวหลังผ่าตัดสี่วัน
โดนทักแค่ว่า <หน้าเปลี่ยนไปนะเนี่ย> แต่ว่าดูไม่รู้เลยครับว่าตรงไหนที่เปลี่ยนไป เป็นเพราะไม่เห็นแผลเป็น
เลยไม่มีใครคาดถึงเลยครับว่าไปตัดปีกจมูกมา
แล้วก็แฟนชมว่าผลการผ่าตัดปีกจมูกดีมากเลยครับ มองจมูกด้วยความประหลาดใจอยู่ตลอด
เขาบอกว่าสวยครับ อย่างไรก็ตาม! ปมด้อยของผมที่ปีกจมูกกว้างก็ได้ถูกแก้แล้วครับ พอใจเลยครับ :)
Comments
Post a Comment