รีวิวศัลยกรรมปีกจมูก + มิสโค + ฟิลเลอร์จมูก ความพึงพอใจ300%

 #ศัลยกรรมจมูกผู้ชาย #ผ่าตัดจมูกผู้ชาย #รีวิวมิสโค #ศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็น #รีวิวผ่าตัดปีกจมูก #รีวิวฟิลเลอร์จมูก


ฉันยูจินค่ะ

แฟนฉันมีปมด้อยเรื่องปีกจมูกมานานแล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอย่างหนักก็ตัดสินใจทำ 

ศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็นค่ะ

ปกติแล้วการลดขนาดปีกจมูกนั้นถ้าหากทำเป็นการรักษาที่ไม่ใช่ผ่าตัดแล้วก็กลับมาบานอีกหรือ

ถ้ากรีดเอาก็จะเห็นรอยกรีดได้ชัดเลยกะว่าจะไม่ทำ



แต่ว่าพอได้รู้จักการผ่าตัดที่ทั้ง ไม่มีรอยและอยู่ถาวร

ด้วยวิธีศัลยกรรมปีกจมูกแบบไร้แผลเป็นแล้วจึงหาโรงพยาบาลอยู่นานมากแล้วเจอโรงพยาบาลที่ถูกใจและ

น่าเชื่อถือมากที่สุดก็เลยเลือกโรงพยาบาลนี้ค่ะ


Before

————————————————————————

แฟนฉันโดยรวมแล้วหน้าตาดูชิคมากเลยค่ะ >.< ❤️

แต่ว่าเพราะว่าปีกจมูกเลยทำให้เวลามองหน้าตรงดูซื่อ? มากกว่าเวลามองจากด้านข้าง แต่มีจมูกที่ดูกลม

ก็เลยดูเหมือนไปเอาจมูกคนอื่นมาใส่เลย เพราะแบบนี้เวลาแต่งรูปเลยต้องบีบปีกจมูกให้อยู่ตลอดเลยค่ะ



อย่างที่เห็นในรูปด้านซ้าย ปลายจมูกค่อนข้างที่ปลายตกค่ะ

ถ้าเกิดว่าหลังศัลยกรรมแล้วปีกจมูกเล็กลงแล้ว แต่ปลายจมูกยังตกอยู่

รูปจมูกก็จะดูไม่ค่อยสวยเลยทำมิสโคร่วมด้วยค่ะ ส่วนดั้งนั้น ไม่ใช่คนที่ไม่มีดั้งอยู่แล้ว

แต่ว่าถ้าเกิดจะให้ดูสวยจบหลังทำแล้วจึงตัดสินใจทำฟิลเลอร์จมูกด้วยค่ะ



ถ้าเกิดหน้านิ่งๆ ด้านข้างจมูกดูไม่บานหนักมาก

แต่พอยิ้มแล้วจมูกบานขึ้นเลยค่ะคนที่จมูกบานก็จะเข้าใจเลยค่ะว่าเครียด

ถ้าเกิดว่าปีกจมูกเล็กลงจมูกจะดูสวยยิ่งขึ้นและเข้ากับภาพลักษณ์เขามากขึ้นเลยตัดสินใจจองเลยค่ะ


หลังจากนี้แฟนของฉันจะมา

รีวิวให้ฟังอย่างละเอียดให้ฟังค่ะ

ความเจ็บ / ระยะเวลา / ขั้นตอน




โรงพยาบาลให้มาส์กมา เลยใส่มาส์กไปไหนมาไหนครับ


แฟนยูจินเองครับ !_!

ผมจะมาเล่าขั้นตอนให้ฟังนะครับ

ก่อนอื่นหลังผ่าตัดสามวันจะล้างหน้าไม่ได้เลยแนะนำให้ไม่แต่งหน้ามาครับ

ยังไงก่อนผ่าตัดต้องล้างหน้าอยู่แล้วเลยแนะนำแค่ทาสกินแคร์ครับ!


ขั้นตอนก่อนการผ่าตัด


คุณหมอก็จะอธิบายว่าจมูกรูปร่างเป็นอย่างไรให้อย่างละเอียดและถ้าผ่าตัดกับทำมิสโคและฟิลเลอร์แล้ว

จมูกจะออกมาเป็นอย่างไร คุณหมออธิบายพร้อมกับวาดรูปให้ดูไปด้วยครับ ความเชื่อมั่นก็เพิ่มขึ้นอีก!

พอปรึกษากับคุณหมอเสร็จแล้วพนักงานท่านอื่นก็มาถ่ายรูปหน้าตรง ข้าง ล่างอย่างละเอียดครับ

เสร็จแล้วก็ไปยังเตียงผ่าตัด


ขั้นตอนการผ่าตัด


พอขึ้นไปเตียงผ่าตัดแล้วคุณหมอก็มาทาครีมที่จมูกและเอาขนจมูกออกให้ครับ

หลังจากนั้นก็เริ่มการผ่าตัด!

ใช้เวลาประมาณ 40~45 นาที

เจ็บอย่างไม่มีสติเลยครับ


ขั้นตอนหลังการผ่าตัด

พอเสร็จการผ่าตัดแล้วคุณหมอก็ให้ดูกระจกและอธิบายให้ฟังว่าจมูกเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

เสร็จแล้วก็ไปยังห้องให้คำปรึกษาเพื่อฟังว่าต่อไปต้องดูแลอย่างไรบ้าง 

เพื่อให้รอยบวมหายไปเร็วและไม่เหลือรอยแผลเป็นต้องตั้งใจฟังคุณหมออย่างละเอียด

และทำตามครับ

*มีคำอธิบายเขียนอยู่ในกระดาษที่ให้มาแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะลืมเลยครับ โน โน


ความเจ็บปวด


ตอนที่ผ่าตัดเจ็บอยู่แค่อย่างเดียวครับ คือตอนฉีดยาชาครับ

เจ็บยิ่งกว่าความเจ็บอะไรที่จินตนาการได้ครับ

ฉีดตรงข้างขวาซ้ายของจมูกและตรงกลางรวมทั้งหมด 8  จุดครับ

แต่ละจุดเจ็บเหมือนโดนบิดกระดูกครับ...

อยู่เฉยๆน้ำตาก็ไหลออกมาครับ....เจ็บจริง ๆครับ


พอฉีดยาชาแล้วหลังจากนั้นระหว่างการผ่าตัดก็ไม่มีความเจ็บอะไรอีกเลยครับ มีแค่เสียงครืด ๆ และ

ตอนเย็บครับ มีแต่ความเจ็บเข้ามาทางจิตใจแต่ว่าใช้วิธีร้องเพลงในใจให้เวลา 40 นาทีผ่านไปครับ


คำเตือน : เจ็บครับ very เจ็บ เราฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บแต่ตอนฉีดยาชาเจ็บมากครับ

แต่ว่าทนโดยการท่องไว้ว่า เจ็บแค่แปปเดียว!

อย่างไรก็ตามพอเริ่มฉีดยาชาแล้ว

ยังไงก็หนีออกไปไม่ได้อยู่ดี55555


วันที่ 1




หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วก็จะได้รับใบอธิบายและใบยามา (ยาแก้ปวด, ยาที่ช่วยไม่ให้น้ำมูกไหล, ยาลดกรด) จำได้ว่าทั้งหมดมี 4 อย่างครับ ตัวผมเองร่างกายรับยาแก้ปวดไม่ค่อยได้เลยซื้อไทลินอลกลับมาด้วย 

1 กระปุกครับ พอผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกแสบ ๆ แล้วครับ เหมือนกับคลื่นฝนก่อนที่พายุจะมาครับ ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงพอยาชาเริ่มคลายแล้ว ร่างกายก็เริ่มสั่นและรู้สึกเจ็บเหมือนกับเซลล์ประสาทความเจ็บมาอยู่ที่จมูกเลยครับ วันแรกผมกินยาที่ได้มาและกินไทลินอลไปประมาณ 4~5 เม็ดครับ





ยูจินเอาแต่ชมว่าจมูกทำออกมาได้สวยมาก แต่ว่าวันผ่าตัดวันนั้นเป็นเพราะความเจ็บคำพูดเลยไม่เข้าหูเลยครับ

ก็แค่กินยาแล้วหลับไป พอตื่นมาเพราะว่าเจ็บก็กินยาอีกแล้วก็หลับไปอีก เหมือนนอนทั้งวันเลยครับ

เพราะอย่างงั้นทำให้ร่างกายเหนื่อยวันผ่าตัดก็อาจจะเป็นตัวช่วยอีกวิธีก็ได้ครับ ㅠㅠ

ผมเป็นคนที่นอนเยอะอยู่แล้ววันแรกเลยสามารถนอนทั้งวันเพื่อลืมความเจ็บได้ครับ




วันแรกเพราะว่าช้ำจมูกเลยดูเชิดขึ้นนิดหน่อยและโด่งครับ

พอประมาณกลางดึกความเจ็บหลักๆก็ผ่านไปแล้ว สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติครับ

อย่างที่เห็นถ้าดูจากไกล ๆ ดูไม่ออกเลยครับ

แต่ว่าถ้ากระเทือนนิดหน่อยตรงจมูกอาจรู้สึกเจ็บแปล๊บได้เลยต้องระวังระมัดหน่อยครับ


*สรุปวันที่หนึ่ง


ถ้ายาชาคลายแล้วได้ลิ้มรสของนรกเลย

อาจจะต้องการยาแก้ปวดได้ ซื้อไทลินอลไว้ล่วงหน้า

นอนเพื่อลืมความเจ็บ






วันที่ 2




เหมือนโดนผึ้งต่อยเลย



วันที่สองบวมที่สุดครับ

จมูกบวมแบบนี้ครับ

วันที่สองนั้นตามใบอธิบาย

ให้เอาเทปที่ปิดตรงปลายจมูกออกครับ


วันที่สองเจ็บน้อยกว่าวันที่หนึ่งแต่ว่าอาจจะรู้สึกแสบและเจ็บแปล๊บขึ้นมากระทันหัน

เหมือนมีกองโจรซุ่มโจมตีได้ครับ ให้กินยาที่ได้มาอย่างเคร่งครัดและกินไทลินอลเผื่อไว้ครับ

แต่ว่าก็ใช้ชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่งครับ !_!




และหลังผ่าตัดสามวันไม่สามารถให้น้ำโดนหน้าได้เลยรู้สึกไม่สะดวกที่ไม่สามารถล้างหน้าได้ครับ

สำหรับผม ผมใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเหงื่อและพยายามอยู่แต่บ้านไม่ให้เหงื่อไหลครับ

พอเข้าวันที่สองแล้วก็จะยิ่งบวม บริเวณจมูกและริมฝีปากจะบวม อาจจะรู้สึกไม่สบายได้ครับ

เขาบอกว่ารอยบวมจะเริ่มลดจากบริเวณจมูกไล่ลงไปถึงคางและแก้มครับ เพื่อให้หายบวมแล้ว

การประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดก็สำคัญครับ


และบริเวณที่ผ่าตัดเลือดอาจจะแข็งตัวและมีหนองได้การใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำเกลือทำความสะอาด

เบาเบาบริเวณผ่าตัดก็สำคัญครับ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะมีรอยแผลเป็นได้ครับ ㅠ_ㅠ


วันที่สาม




วันที่สามครับ


วันที่สามนั้นเจ็บน้อยกว่า 1,2 อย่างรู้สึกได้ครับ

รอยบวมก็ไม่ค่อยชัดมากครับ

แต่ว่าก็ต้องใช้คอตตอนบัตจุ่มน้ำเกลือทำความสะอาดอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้นครับ

ระหว่างที่ทำความสะอาดอาจจะรู้สึกแสบหรือเจ็บได้แต่เพื่อรอยแผลเป็นแล้วให้อดทดไว้และเช็ดครับ





ตั้งแต่วันที่สามผมรู้สึกอึดอัดในจมูกมากครับ ㅠㅠ ในจมูกเริ่มมีฝุ่นและน้ำมูกสะสมอยู่ทั้งแข็งตัวและไหลออกมา

แต่ว่าเขาบอกว่าน้ำมูกไม่ดีกับบาดแผลเลยได้แต่อดทนไว้และเช็ดออกด้วยคอตตอนบัตครับ แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดเหมือนเดิม :( ใจที่อยากจะสั่งน้ำมูกทำให้วันนั้นทั้งวันร่างกายและจิตใจอึดอัดไปหมดเลยครับ




แต่ถึงอย่างไรรอยบวมก็เริ่มค่อย ๆ หายไปแล้วจมูกก็เริ่มเข้ารูปมากขึ้น เห็นใช่ไหมล่ะครับ ตอนนั้นยังเจ็บอยู่

เลยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่แต่พอมาดูรูปแบบนี้แล้วรู้สึกคิดถูกเลยครับที่ทำปีกจมูก :) แค่นี้ก็พอใจแล้ว


อีกสี่วันก็จะได้ไปตัดไหมแล้ว ได้แต่ตั้งตารอคอยวันนั้นและหนีอากาศร้อนอยู่กับยูจินครับ




หลังจากตัดไหม




ตัดไหมแล้ว วันนั้นไม่มีใครดูออกเลย


ในที่สุด! เวลาที่รอคอยมาหนึ่งอาทิตย์ ได้ตัดไหมแล้วครับ! แวะไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อไปตัดไหมและ

รีทัชฟิลเลอร์ครับ คำแรกที่ผมขึ้นเตียงผ่าตัดเพื่อตัดไหมคือ “เจ็บไหมครับ...?”

55555555

เพราะว่าวันผ่าตัดรู้สึกเจ็บจนจำครับ :(


แต่ว่าการตัดไหมนั้นรู้สึกแสบและจบภายในหนึ่งนาทีครับ

คุณหมอดูรูปจมูกให้อย่างใจดีและรีทัชฟิลเลอร์จมูกให้เข้ารูปครับ




หลังจากตัดไหม 5 วัน (เพิ่งถ่ายตอนตื่นหน้าเลยบวมครับ)




หลังจากตัดไหมหนึ่งอาทิตย์


ตั้งแต่วันที่ตัดไหมจนถึงอีกประมาณสามวัน จะเห็นรอยแดงตรงบริเวณที่เย็บครับ เพราะว่าผิวหนังขึ้นใหม่

ก็เลยเกิดเป็นรอยขึ้นมาครับ แต่ว่าตรงปลายจมูกจะมีเงาอยู่แล้วเลยทำให้มองไม่ค่อยเห็นครับ ไม่ต้องกังวล


อีกทั้งต่อไปนี้ยังต้องใช้คอตตอนบัตชุบน้ำเกลือทำความสะอาดให้ไม่เกิดแผลเป็น และสามารถทายาลดรอยแผลเป็นตั้งแต่วันนั้นได้เลยครับ แต่ว่าความชื้นไม่ดีกับรอยแผล เลยจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าให้แห้งด้วยครับ


ถ้าเกิดว่าจับปลายจมูกหรือขยับจะยังรู้สึกเจ็บและไม่เป็นธรรมชาติอยู่ เลยถามคุณหมอว่าเป็นไรไหม

คุณหมอบอกว่าเกิดจากมิสโค ไม่จำเป็นต้องกังวลครับ

ตั้งแต่อาทิตย์หน้าต้องเริ่มออกกำลังกายจมูกมิสโคแล้วล่ะครับ @.@


ปฏิกิริยาคนรอบข้าง 


ผมขยันใช้คอตตอนบัตเช็ดก็เลยสามารถถอดมาส์กและไปไหนมาไหนโดยที่คนไม่ค่อยรู้เลยครับว่ายังมีไหมอยู่

พอตัดไหมที่อยู่ในจมูกแล้ว วันนั้นไปเจอเพื่อน เพื่อนยังดูไม่รู้เลยครับ


พอไปเจอครอบครัวหลังผ่าตัดสี่วัน

โดนทักแค่ว่า <หน้าเปลี่ยนไปนะเนี่ย>  แต่ว่าดูไม่รู้เลยครับว่าตรงไหนที่เปลี่ยนไป เป็นเพราะไม่เห็นแผลเป็น

เลยไม่มีใครคาดถึงเลยครับว่าไปตัดปีกจมูกมา


แล้วก็แฟนชมว่าผลการผ่าตัดปีกจมูกดีมากเลยครับ มองจมูกด้วยความประหลาดใจอยู่ตลอด

เขาบอกว่าสวยครับ อย่างไรก็ตาม! ปมด้อยของผมที่ปีกจมูกกว้างก็ได้ถูกแก้แล้วครับ พอใจเลยครับ :)







Comments